ดื่มแอลกอฮอล์กับการออกกำลังกาย

          ดับความร้อนระอุของอากาศในเดือนเมษายนด้วยเครื่องดื่มเย็นๆสักแก้วไหมคะ? คุณจะรับเป็นชามะนาวหรือว่าน้ำเก็กฮวยดีล่ะ?...ถามกันเล่นๆไปอย่างนั้นแหละค่ะ เนื่องจากเทศกาลสงกรานต์ใกล้เข้ามาแล้ว ปีนี้คุณสามารถนั่งหลังรถกระบะเล่นสาดน้ำกันได้แล้วใช่ไหมเอ่ย? 😆 ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ หลายคนก็ใช้วันหยุดไปกับการเดินทางท่องเที่ยว ในขณะที่บางคนอาจจะเลือกใช้เวลาพักผ่อนอยู่กับที่บ้าน อยู่กับครอบครัวพร้อมการกักตุนอาหารเต็มพิกัดในระหว่างเทศกาลนี้อย่างแน่นอน...สำหรับบล็อกนี้เราจะมาเขียนถึงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กับการออกกำลังกายว่ามีผลกับผู้หญิงอย่างเรายังไงกันบ้างดีกว่านะ
   

 

ไวน์ปริมาณพอเหมาะช่วยลดระดับไขมันในเส้นเลือด/สารResveratrol ,Polyphenol มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ

ซึ่งเราจะสรุปให้เข้าใจง่ายและสั้นที่สุด ไม่ว่าเราจะเป็นคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ เป็นนักกีฬา หรือเป็นคนไม่ชอบออกกำลังกายเลยก็ตาม เราก็ควรที่จะทำความเข้าใจผลกระทบที่เกิดจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์  เมื่อเราดื่ม แอลกอฮอล์จะทำให้ร่างกายขาดน้ำเพราะมันจะไปขับปัสสาวะ ซึ่งหมายความว่าจะไปทำให้ไตของเราผลิตยูรีนมากขึ้นไปอีก
การดื่มเหล้าแล้วออกกำลังกายยังทำให้เลวร้ายเพิ่มขึ้นไปอีก เพราะเราต้องเสียเหงื่อเพิ่มขณะออกกำลังกาย(ในขณะนั้นร่างกายกำลังขับแอลกอฮอล์ออก)อาการที่เราขาดน้ำจะไปลดประสิทธิภาพการออกกำลังกาย  ดังนั้นเราจำเป็นจะต้องรักษาน้ำในร่างกายเอาไว้เพื่อรักษาระบบการไหลเวียนโลหิตทั่วร่าง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต่อระบบการขนถ่ายออกซิเจนและสารอาหารไปสู่กล้ามเนื้อ
        แอลกอฮอล์จะเข้าไปรบกวนต่อการผลิตพลังงานของร่างกาย ทำลายตับ เมื่อไปทำลายตับและรบกวนฟังก์ชั่นการทำงานบางส่วนของตับแล้วยังทำให้ประสิทธิภาพเกี่ยวกับการผลิตกลูโคสลดลง  ถ้าตับไม่สามารถผลิตกลูโคสได้เพียงพอ ร่างกายเราจะเหนื่อยจากการที่ต้องทำงานหนักเพื่อขับแอลกอฮอล์ออกไป นอกจากนั้นแอลกอฮอล์ยังเข้าไปมีผลกับระบบประสาททำให้การรับรู้ตัวช้าลงกว่าปกติในระหว่างออกกำลังกาย การแข่งขันหรือระหว่างทำกิจกรรมอื่นๆ  การดื่มในช่วงดึกก่อนออกกำลังกายจะส่งผลในทางลบต่อการทำกิจกรรมของเราในวันถัดมาได้ มันเป็นไปไม่ได้ที่เราจะปฎิบัติการได้ดี ถ้าหากยังรู้สึกว่าเรามีอาการเมาค้าง ขาดน้ำหรือปวดศรีษะอยู่
       ในระหว่างออกกำลังกาย กล้ามเนื้อเราเผากลูโคสให้เป็นพลังงานซึ่งจะทำให้เกิดกรดแลคติก และกรดแลคติกที่มีมากเกินไปนี้จะนำมาสู่การเมื่อยล้าและมีความเป็นไปได้ที่จะทำให้เราเกิดตะคริวได้อีกด้วย  ถ้าเราออกกำลังกายหลังจากดื่มแล้ว ตับของเราจำต้องทำงานหนักมากขึ้นเพื่อที่จะกำจัดสารพิษจากแอลกอฮอล์  ดังนั้นการกำจัดกรดแลคติกในร่างกายก็จะช้าขึ้นไปอีก เพิ่มโอกาสการเป็นตะคริว ทำให้เหนื่อยเร็วขึ้น พลังและความทนทานจะลดน้อยลง  ด้วยเหตุผลเหล่านี้จึงแนะนำให้ควรหลีกเลี่ยงการดื่มช่วงดึกก่อนออกกำลังกาย โดยเฉพาะถ้าเราอยู่ในระหว่างการออกกำลังกายที่มีความเข้มข้นระดับปานกลางหรือระดับสูง อย่างไรก็ตามหากเราตัดสินใจที่จะดื่มควรจำกัดจำนวนดริ้ง  เช่นดื่มไม่เกินห้าดริ้ง ไม่ใช่แก้วเดียวเติมตลอดและควรดื่มพร้อมมื้ออาหาร  ไม่แนะนำให้ดื่มทันทีหลังจากออกกำลัง

การดื่มมีผลต่อการเพิ่มน้ำหนัก
แอลกอฮอล์มีแคลอรี่สูง(7แคลอรี่/1กรัม)เป็นตัวเพิ่มไขมันเน้นๆให้เราเลย ถ้าเราออกกำลังกายเป็นประจำก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องเติมน้ำตาลเลวหรือแคลอรี่เปล่าๆจากแอลกอฮอล์เหล่านี้  เนื่องจากแอลกอฮอล์จะทำให้กล้ามเนื้อพัฒนาได้แย่ แอลกอฮอล์จะไปรบกวนระบบการนอน ระบบการหลั่งของโกรทฮอร์โมนที่จำเป็นต้องมีขณะหลับลึกเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ ดังนั้นการถูกรบกวนการนอนหลับจะเป็นตัวนำไปสู่การเพิ่มกล้ามเนื้อได้ช้า นอกจากนี้แอลกอฮอล์ยังมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงการเต้นของหัวใจ
เป็นที่กังวลอย่างมากว่าการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สามารถเพิ่มอัตราการเต้นที่ผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นได้ต่อหัวใจซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นของความเสี่ยงที่มีนัยยะสำคัญระหว่างการออกกำลังกายมากถึงสองวันหลังจากการบริโภคแอลกอฮอล์มาอย่างหนัก  ความเสี่ยงนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล กิจกรรม แอลกอฮอล์ด้วยตัวของมันเองก็เพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจอยู่แล้ว และยิ่งเราปล่อยให้แอลกอฮอล์อยู่ในระบบมากเท่าไหร่หัวใจเราก็จะอยู่ภายใต้การกดดันมากขึ้น(เครียด)เท่านั้น

ดื่มมากทำให้แผลหายช้าหลังการบาดเจ็บ
การดื่มบ่อยครั้งเป็นเรื่องของสังคมที่ยากจะหลีกเลี่ยงได้ ควรทานให้อิ่มก่อนหรือทานอาหารขณะดื่มไปด้วย และค่อยๆดื่มอย่างช้าๆ ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์เวลาที่รู้สึกกระหายเพราะเวลาเรากระหายเราจะดื่มมากกว่าปกติ ฉะนั้นควรดื่มเครื่องดื่มที่ไม่ใช่แอลกอฮอล์ไปก่อนเพื่อดับกระหาย ดื่มอย่างช้าๆไม่ใช่เขมือบ เลือกดื่มอย่างฉลาด เลือกเบียร์ที่มีแอลกอฮอล์ต่ำ หรือใช้แก้วใหญ่ใส่มิซ์ผสมน้ำผลไม้หรือเครื่องดื่มซอฟ์ดริ้งอื่นๆ  ดื่มแล้วอย่าขับ ดื่มแล้วรู้จักหยุด รู้จักลิมิต ไม่ใช่ปล่อยให้คนอื่นเติมให้อยู่บ่อยๆ ทำตัวให้ยุ่งจะทำให้คุณดื่มน้อยลง ไปเต้นหรือไปเล่นพลูก็ได้ อย่าเอาแต่นั่งอยู่กับที่แล้วเอาแต่ดื่มอย่างเดียว ดื่มน้ำเยอะๆก่อนนอนจะได้ไม่แฮ้ง ร่างกายเราไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้เก็บแอลกอฮอล์ มันจะถูกกำจัดออกจากร่างกายให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้และที่สำคัญมากกว่านั้นแอลกอฮอล์จะลดระดับเทสโทสเทอโรนฮอร์โมนเพศชายของคุณ (เป็นฮอร์โมนสำคัญสำหรับสร้างกล้ามเนื้อ)ดื่มแอลกอฮอล์มากเป็นพิษต่อเส้นใยกล้ามเนื้อ
ทำไมผู้หญิงเมาง่ายกว่าผู้ชาย? ผู้หญิงอ่อนไหวกับแอลกอฮอล์มากกว่าผู้ชายเพราะร่างกายผู้หญิงมีน้ำเป็นส่วนประกอบน้อยกว่าผู้ชายในขณะที่มีไขมันในร่างกายมากกว่า มีกล้ามเนื้อน้อยกว่าและตัวเล็กกว่า  ไขมันจะกักเก็บแอลกอฮอล์ในขณะที่น้ำชะล้างแอลกอฮอล์ ดังนั้นแอลกอฮอล์ที่อยู่ในตัวผู้หญิงจะเข้มข้นกว่าและอยู่ได้นานกว่า เอนไซน์ผู้หญิงดูดซึมแอลกอฮอล์เข้าสู่กระแสเลือดได้มากกว่าผู้ชาย ผู้หญิงมีระบบเอนไซน์สองชนิดที่มีระดับต่ำกว่า(ของผู้ชาย)คือ alcohol delydrogenaseและaldehyde dehydrogenase.และการเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมนในร่างกายขณะมีประจำเดือน(แม้ว่าการดื่มเบียร์ปริมาณเล็กน้อยช่วยลดความเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจ/หรือมีผลในเชิงป้องกันจากหลายงานวิจัยก็ตาม)

การดื่มแอลกอฮอล์สร้างผลกระทบทางลบต่อครอบครัว สังคมและเศรษฐกิจในบ้านที่มีพ่อหรือแม่คนใดคนหนึ่งติดเหล้าหรือเบียร์  บ้านนั้นมักจะมีปัญหาความรุนแรงแฝงอยู่เสมอทั้งโดยทางตรงและทางอ้อมทั้งทางด้านสภาพจิตใจ อารมณ์ การเงิน ความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว เช่นปัญหาค่าใช้จ่ายภายในบ้านสูงขึ้น ปัญหาภาระหนี้สิน

ปัญหาความรุนแรงในครอบครัว ครอบครัวแตกแยก เช่น ทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกาย ปัญหาการควบคุมอารมณ์รวมไปถึงภาวะโรคซึมเศร้า
ปัญหาการข่มขืน การล่วงละเมิดทางเพศทั้งต่อเพศหญิงและชาย
ปัญหาสุขภาพเสื่อมโทรม เมื่ออายุมากขึ้นกระดูกจะบางลง ไขมันเยอะขึ้นและแอกอฮอล์เป็นส่วนหนึ่งของอุบัติเหตุทางถนนที่เกิดมากที่สุด
ผู้หญิงที่ดื่มมากกว่า7ครั้งต่อสัปดาห์ จะมีความเสี่ยงกับอุบติเหตุ สโตรก ฆ่าตัวตาย
แอลกอฮอล์ทำลายสมอง ระดับสติปัญญาความคิดจะต่ำลง เมื่อสติลดลงจึงมีโอกาสที่ความยับยั้งชั่งใจจะลดลงไปด้วย...
สำหรับความเห็นส่วนตัวดิฉันคิดว่าคนที่ดื่มไม่ใช่คนที่ไม่ดี เป็นเพียงคนที่มีความชอบและรสนิยมส่วนตัวแตกต่างกัน จะดื่มมาก ดื่มน้อย ดื่มแล้วควรรู้ว่าแค่ไหนควรพอควรหยุด ผู้ดื่มเท่านั้นคือคนตัดสินตัวเขาเอง ถึงเราจะเป็นห่วงคนใกล้ตัวเราแค่ไหนสิ่งที่เราทำได้คือแสดงความห่วงใยเขาด้วยการปฎิบัติตัวของเราเองให้ดีและให้คำแนะนำปรึกษาด้วยคำพูดที่เมตตาจากใจต่อเขา ไม่จำเป็นต้องบ่นด่าหรือใช้อารมณ์กลับไป  คนเราจะเป็นคนดีหรือไม่ดีไม่ใช่เพราะเป็นคนที่ดื่มหรือไม่ดื่ม แต่เพราะพฤติกรรมที่เราแสดงออกหลังจากดื่มนั้นต่างหากว่าเป็นอย่างไร เช่น เราดื่มแล้วตลก พูดมากขึ้น เราก็ยังเป็นคนดีอยู่(ในสายตาของสังคม)เพราะคนอื่นยังไม่เดือดร้อน แต่ถ้าเราดื่มแล้วดุชวนทะเลาะวิวาท คว้ามีดไล่แทงคนอื่น ตอนนี้แหละที่เรากำลังจะกลายเป็นคนไม่ดี(ในสายตาสังคม)เพราะเราอาจจะไปทำให้คนอื่นเดือดร้อนรวมถึงตัวเราเองด้วยโดยมีแอลกอฮอล์เป็นส่วนหนึ่งที่เป็นตัวชักพาไป
ผู้เขียน:แก้วเกตุมณี@fitandfirmfamily.com
อ้างอิง
https://www.helpguide.org
https://www.drinkware.co.uk/lifestyle
https://www.medicaldaily.com
Irish Nutrition and Diateties Institute(the true about alcohol and exercise)www.indi.ie fact-sheets.