How to Deadlift? ยกน้ำหนักเดดลิฟท์
สวัสดีค่ะคุณผู้อ่าน ห่างหายกันไปนานกับการเขียนบล็อก วันนี้เราจะมาจัดหนักกับท่าออกกำลังกายอีกสักท่า นั่นคือ การยกน้ำหนักท่าเดดลิฟต์ Deadlift(เดดลิฟต์) หมายถึงการยกน้ำหนักที่วางอยู่นิ่งๆบนพื้น เดดลิฟต์เป็นCompound Movement หมายถึงการออกกำลังกายที่มีผลกับกระดูกข้อต่อหลายส่วน ได้หลายมัดกล้ามเนื้อได้ประโยชน์เกือบทั้งตัว ถือได้ว่าเป็นท่าKing อีกท่าหนึ่งของการออกกำลังกาย หลายคนถ้าไม่รักก็เกลียดเลยสำหรับท่านี้ หลายคนหลงรักท่านี้ หลายคนไม่กล้าเล่นเพราะความอันตรายของท่า
แต่เนื่องจากเป็นท่าเล่นสุดโปรดที่ช่วยระเบิดโกรทฮอร์โมนได้ดีมาก ผู้เขียนจึงอยากมาแนะนำให้สาวๆลองเล่นกันดูค่ะ(เริ่มฝึกฟอร์มให้ถูกก่อนค่อยเพิ่มน้ำหนัก)
คำถามยอดนิยม
การเริ่มต้นเล่นเป็นครั้งแรกต้องเตรียมตัวอย่างไร
คุณควรเป็นคนที่ฝึกบริหารร่างกายอยู่เป็นประจำ เคยออกกำลังโดยการยกน้ำหนัก หรือบอดี้เวทมาก่อนบ้าง ถ้าคุณไม่เคยให้ฝึกจากฟอร์มการเล่นเปล่าๆก่อน(ไม่ต้องใส่น้ำหนัก) เน้นท่าถูกต้อง หรืออาจเพิ่มน้ำหนักด้วยดัมเบลทั้งสองข้างเพื่อลองถ่วงน้ำหนักฝึกสังเกตดู ฝึกโฟกัสกล้ามเนื้อตรงไหนเกร็งตรงไหนตึง เมื่อเริ่มฝึกบ่อยๆ ท่าจะเริ่มถูกต้องตามฟอร์มไม่เงอะงะ เพราะกล้ามเนื้อจะเริ่มจำ
คำตอบด้านล่างนี้จากประสบการณ์ส่วนตัวหลังจากที่ได้เริ่มเล่นท่านี้มานาน และเพิ่งจะได้มีโอกาสมาเขียนบันทึกไว้ค่ะ
ในวันแรกๆของการฝึก ยกแค่บาร์เปล่าๆยังสั่นแทบตายค่ะ(ขาสั่น)เป็นเรื่องปกติมากสำหรับคนที่เริ่มออกกำลังกาย เมื่อร่างกายปรับตัวได้ ภายหลังจึงจะเริ่มดีขึ้นและหยุดสั่นไปเองนะคะ อย่าลืมเน้นฟอร์มถูกต้องไว้ก่อนนะคะ เพื่อความปลอดภัยและการโฟกัสกล้ามเนื้อตรงจุด
ข้อสังเกตขณะที่ฝึก
ถ้าขาคุณสั่นตอนยก แปลว่าขาคุณอาจจะยังไม่แข็งแรง ถ้าคุณปวดแขนมากเวลาที่คุณยกแปลว่าแขนคุณไม่ยังไม่แข็งแรง รวมถึงการปวดส่วนอื่นๆด้วยทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับน้ำหนักการยกและตัวบุคคลเป็นหลัก(ปล.อาการสั่นไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคนนะคะ)
แต่ก็อย่าลืมกลับไปเช็คฟอร์มการเล่นดูด้วยว่า หลังแอ่นหรือโค้งตอนฝึกหรือไม่ ถ้าคุณแอ่นหลังหรือ โค้งหลัง จุดรับน้ำหนักเต็มๆจะอยู่ที่กระดูกสันหลัง ซึ่งเป็นจุดที่อันตรายมาก ถ้าคุณถามว่าอันตรายแค่ไหนก็ต้องตอบตรงๆว่าถึงชีวิตเพราะบางคนยกผิดท่าและน้ำหนักมากเกินไปอาจเกิดอุบัติเหตุที่หลังหรือต้องนอนอัมพาตรักษาตัวเป็นเดือนๆได้
เพราะหลังของคุณคือจุดเส้นประสาท และการเล่นที่มีประสิทธิผลคือการเล่นโดยที่คุณไม่บาดเจ็บหรือความเสี่ยงเป็นศูนย์ แต่คุณสามารถพัฒนากล้ามเนื้อได้ดี สุขภาพโดยรวมแข็งแรง สุขภาพจิตดี หน้าตาแจ่มใส นั่นต่างหากที่สำคัญ
มาดูท่าที่คนนิยมเล่นกันค่ะ
1.Stiff leg Deadlift ได้กล้ามเนื้อส่วนใดบ้าง
1.hamstring 2.glute 3.lower back 4.arm and shoulder
โดยเดดลิฟท์ประเภทนี้จะวางท่าเหมือนท่ายืนตัวตรงก้มเก็บของ เข่าจะโค้งงอนิดหน่อยตามธรรมชาติและให้คุณดันก้นไปข้างหลัง บล็อคหลังให้ตรง เหยียดแขนตรง คุณสามารถยืนทดสอบหน้ากระจกได้ตอนนี้เลย แล้วแตะขาด้านหลังของคุณดูว่ารู้สึกตึงหรือไม่ ถ้าคุณเล่นถูก คุณจะรู้สึกได้ถึงกล้ามเนื้อชิ้นนั้นมันทำงานอยู่ ของแบบนี้ทำถูกฟอร์มปุ๊บจะรู้สึกได้ทันทีและวันต่อมาจะปวดกล้ามเนื้อต่ออีกหนึ่งถึงสองวัน ถ้าคุณมีอาการปวดจี๊ดๆ ปวดแปล๊บๆแบบนี้ไม่ใช่อาการปวดกล้ามเนื้อนะ คุณต้องกลับมาเช็คฟอร์มใหม่เลยว่าคุณทำถูกไหม การฝึกทุกท่ามีโอกาสบาดเจ็บเพราะฉะนั้นเซฟตัวเองก่อนที่จะให้คนอื่นมาช่วยเซฟ
2.Romanian Deadlift ได้กล้ามเนื้อส่วนใดบ้าง
1.hamstring 2.glute 3.core 4.back 5.lat and shoulder
ยืนตัวตรงโดยเริ่มจากยกบาร์จากแรค หรือจากที่พื้นก็ได้ การวางท่าจะมีลักษณะคล้ายกับท่า stiff leg deadlift ก้าวเท้าเข้าไปใกล้กับบาร์(กรณีคุณยกจากพื้น) กางขาประมาณไหล่ ยืนตัวตรงดันสะโพกไปด้านหลัง เข่าจะโค้งนิดหน่อยตามธรรมชาติ ในขณะที่แขนทั้งสองข้างจะต้องตรงไม่งอข้อศอก ดึงบาร์ขึ้นมาและยกลงให้ถึงประมาณหน้าแข้งก็เพียงพอ(ไม่ต้องลงถึงพื้น) รักษาแนวกระดูกสันหลังให้ตรง มีพุงเก็บพุงด้วยนะคะหลังจะได้ไม่ปวด
ปล.ถ้าคุณยกจากแรคบาร์ ก็ให้เริ่มเล่นจากด้านบนได้เลย
3.Conventional deadlift ได้กล้ามเนื้อส่วนใดบ้าง
1.hamstring and quad 2.glutes 3.back(spinal erector) 4.lats 5.traps 6.levator scapulae(สะบักและต้นแขนที่ช่วยการยก)
ท่านี้ส่วนใหญ่คุณมักจะเห็นคนในยิมเล่นกันบ่อย การวางท่าแตกต่างกันตรงที่ ยืนตรงความกว้างเท้าเสมอหัวไหล่ ย่อเข่าลง ดันสะโพกไปด้านหลังทื้งน้ำหนักตัวไปที่ส้นเท้า เก็บหน้าท้อง บล็อคหลังให้ตรง เหยียดแขนตรงไม่งอข้อศอก ดึงบาร์ขึ้นมาจากพื้น ยืนตัวตรงมีhip extentionนิดหน่อย
4.Sumo deadlift ได้กล้ามเนื้อส่วนใดบ้าง
1.glute 2.hamstring 3.quads 4.spinal erectors
ยืนตัวตรงกางขากว้างตามความสูง เตี้ยตามลักษณะของร่างกายคุณ (โดยสังเกตความกว้างของเท้าจากเส้นวิงบาร์ด้านในก็ได้ ปรับให้การยืนสะดวกสำหรับคุณที่สุดเพื่อการทรงตัว แขนวางอยู่ด้านในของขา ย่อเข่าลงคล้ายท่าเตรียมทำสควอชโดยสะโพกจะอยู่สูงกว่า เท้ายันพื้นไว้ ดึงบาร์ขึ้นมาด้วยแขนที่ตรง บาร์ควรจะชิดๆตัวไว้ด้วย หลังจากยกขึ้นมาแล้วให้บีบสะโพกเข้าหาตัวบาร์นิดหน่อย(hip extention) (ไม่ใช่เด้งเอวหรือก้นไปข้างหน้านะ) ท่านี้เมนหลักคือร่างกายส่วนล่างจะออกแรงมากกว่า
อุปกรณ์การเดดลิฟต์ ไม่ว่าคุณจะใช้บาร์เบล ดัมเบล เคทเทิลเบล ก็ถือว่าว่าเป็นเดดลิฟท์ทั้งหมด ต่างกันแค่เพียงการใช้อุปกรณ์ ส่วนฟอร์มการเล่นก็ขึ้นอยู่กับชนิดของการเดดลิฟท์ที่แตกต่างกันไป
การจับบาร์ บางคนคว่ำมือ บางคนหงายมือ ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ จับแบบไหนก็ได้เอาที่คุณถนัด
สำหรับเป้าหมายในการฝึกหรือการปรับเพิ่มน้ำหนัก ก็ค่อยๆเป็นค่อยๆไป ค่อยๆเพิ่มน้ำหนัก เล่นให้สนุกไม่ใช่เล่นแล้วเพิ่มความเครียด เล่นให้ใหญ่โตก็อีกแบบ เล่นให้ร่างกายโทนสวยก็อีกแบบ ความทุ่มเทและวินัยจะต่างกันเสมอ หรือถ้าคุณจะฝึกเพื่อลงแข่ง วินัยของคุณจะต้องเทียบเท่าระดับนักกีฬา
ท่าต้องถูกต้องตามฟอร์มคือสิ่งสำคัญ
ยืนเข้าไปใกล้บาร์ให้มากที่สุด จะได้เลี่ยงอาการบาดเจ็บน้อยที่สุด วางเท้าเท่ากับความกว้างของไหล่ วางแขนอยู่ด้านนอกต้นขา(บางท่าวางแขนอยู่ด้านในต้นขา) การจับบาร์จะจับคว่ำมือหรือหงายมือก็ได้หมดขึ้นอยู่กับความถนัด รักษาคานของบาร์ให้ใกล้กับขาไว้ตลอด แขนตรงไม่งอแขนหรือศอก หลังต้องตรงตลอดระยะเวลาการฝึกท่านี้
ข้อควรระวังในการฝึก
ผู้ที่มีปัญหากระดูดสันหลังคด
ผู้ที่มีปัญหากระดูกทับเส้นประสาทหรือหมอนรองกระดูก
เดดลิฟต์เหมาะสำหรับทุกคนหรือไม่ และจำเป็นไหมที่ต้องเล่น?
ตอบ ไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน เพราะข้อจำกัดสภาพร่างกายของคนเราแตกต่างกันเช่นโรคประจำตัวบางโรค ไม่จำเป็นต้องฝึกก็ไม่ผิดอะไร แต่ถ้าหากร่างกายคุณผู้อ่านสมบูรณ์แข็งแรงดีแนะนำว่าลองได้
ทำไมเดดลิฟต์ถึงดีกับคุณ พัฒนาโพสเจอร์ได้ดี ก้นแน่นขึ้น เพิ่มความแข็งแรงทั้งร่างกาย ได้หลายกลุ่มกล้ามเนื้อ ผสมท่าเดดลิฟท์ในการฝึกของคุณอย่างน้อยสัปดาห์ละ1-2 ครั้ง จะสามารถพัฒนาความแข็งแรงของ ต้นขาหลัง(ลดผิวเปลือกส้มได้ดีมาก) ก้น หลังล่าง หลังบน และยังทำให้แกนกลางลำตัวของคุณแข็งแรงขึ้นระหว่างยก ช่วยสร้างกล้ามเนื้อช่วยเพิ่มระบบเผาผลาญได้ในระยะยาว
นอกเหนือจากท่าเดดลิฟต์แล้วผู้เขียนยังจะมีท่าออกกำลังกายอื่นๆที่เป็น compound movement มาบอกเล่าให้คุณผู้อ่านในคราวต่อไป ติดตามอ่านกันนะคะ รับรองได้ประโยชน์แน่นอน
ผู้เขียน:แก้วเกตุมณี@fitandfirmfamily
แต่เนื่องจากเป็นท่าเล่นสุดโปรดที่ช่วยระเบิดโกรทฮอร์โมนได้ดีมาก ผู้เขียนจึงอยากมาแนะนำให้สาวๆลองเล่นกันดูค่ะ(เริ่มฝึกฟอร์มให้ถูกก่อนค่อยเพิ่มน้ำหนัก)
คำถามยอดนิยม
เดดลิฟต์จริงๆแล้วได้ส่วนไหนกันแน่ เห็นบางคนบอกว่าได้หลังบ้าง ได้หลังขาบ้าง ได้ก้นบ้างจากประสบการณ์และหาข้อมูลมาหลายที่ก่อนจะเริ่มฝึก ขอตอบแบบนี้แล้วกันค่ะเดทลิฟท์คือท่าCompound movement หมายถึงการออกกำลังกายที่มีการทำงานร่วมกันของข้อต่อหลายส่วน แปลว่าได้ทุกส่วนของร่างกาย เรียงตามลำดับความสำคัญของท่านั้นๆมากน้อยต่างกันไป บางท่าอาจได้ก้นและหลังขามากกว่าส่วนอื่น บางท่าได้ต้นขาหน้า ก้น ต้นขาหลัง หลังส่วนล่างแต่โดยรวมคือได้ทั้งตัว
การเริ่มต้นเล่นเป็นครั้งแรกต้องเตรียมตัวอย่างไร
คุณควรเป็นคนที่ฝึกบริหารร่างกายอยู่เป็นประจำ เคยออกกำลังโดยการยกน้ำหนัก หรือบอดี้เวทมาก่อนบ้าง ถ้าคุณไม่เคยให้ฝึกจากฟอร์มการเล่นเปล่าๆก่อน(ไม่ต้องใส่น้ำหนัก) เน้นท่าถูกต้อง หรืออาจเพิ่มน้ำหนักด้วยดัมเบลทั้งสองข้างเพื่อลองถ่วงน้ำหนักฝึกสังเกตดู ฝึกโฟกัสกล้ามเนื้อตรงไหนเกร็งตรงไหนตึง เมื่อเริ่มฝึกบ่อยๆ ท่าจะเริ่มถูกต้องตามฟอร์มไม่เงอะงะ เพราะกล้ามเนื้อจะเริ่มจำ
คำตอบด้านล่างนี้จากประสบการณ์ส่วนตัวหลังจากที่ได้เริ่มเล่นท่านี้มานาน และเพิ่งจะได้มีโอกาสมาเขียนบันทึกไว้ค่ะ
ในวันแรกๆของการฝึก ยกแค่บาร์เปล่าๆยังสั่นแทบตายค่ะ(ขาสั่น)เป็นเรื่องปกติมากสำหรับคนที่เริ่มออกกำลังกาย เมื่อร่างกายปรับตัวได้ ภายหลังจึงจะเริ่มดีขึ้นและหยุดสั่นไปเองนะคะ อย่าลืมเน้นฟอร์มถูกต้องไว้ก่อนนะคะ เพื่อความปลอดภัยและการโฟกัสกล้ามเนื้อตรงจุด
ข้อสังเกตขณะที่ฝึก
ถ้าขาคุณสั่นตอนยก แปลว่าขาคุณอาจจะยังไม่แข็งแรง ถ้าคุณปวดแขนมากเวลาที่คุณยกแปลว่าแขนคุณไม่ยังไม่แข็งแรง รวมถึงการปวดส่วนอื่นๆด้วยทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับน้ำหนักการยกและตัวบุคคลเป็นหลัก(ปล.อาการสั่นไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคนนะคะ)
แต่ก็อย่าลืมกลับไปเช็คฟอร์มการเล่นดูด้วยว่า หลังแอ่นหรือโค้งตอนฝึกหรือไม่ ถ้าคุณแอ่นหลังหรือ โค้งหลัง จุดรับน้ำหนักเต็มๆจะอยู่ที่กระดูกสันหลัง ซึ่งเป็นจุดที่อันตรายมาก ถ้าคุณถามว่าอันตรายแค่ไหนก็ต้องตอบตรงๆว่าถึงชีวิตเพราะบางคนยกผิดท่าและน้ำหนักมากเกินไปอาจเกิดอุบัติเหตุที่หลังหรือต้องนอนอัมพาตรักษาตัวเป็นเดือนๆได้
เพราะหลังของคุณคือจุดเส้นประสาท และการเล่นที่มีประสิทธิผลคือการเล่นโดยที่คุณไม่บาดเจ็บหรือความเสี่ยงเป็นศูนย์ แต่คุณสามารถพัฒนากล้ามเนื้อได้ดี สุขภาพโดยรวมแข็งแรง สุขภาพจิตดี หน้าตาแจ่มใส นั่นต่างหากที่สำคัญ
Free photo by pixabay.com
มาดูท่าที่คนนิยมเล่นกันค่ะ
1.Stiff leg Deadlift ได้กล้ามเนื้อส่วนใดบ้าง
1.hamstring 2.glute 3.lower back 4.arm and shoulder
โดยเดดลิฟท์ประเภทนี้จะวางท่าเหมือนท่ายืนตัวตรงก้มเก็บของ เข่าจะโค้งงอนิดหน่อยตามธรรมชาติและให้คุณดันก้นไปข้างหลัง บล็อคหลังให้ตรง เหยียดแขนตรง คุณสามารถยืนทดสอบหน้ากระจกได้ตอนนี้เลย แล้วแตะขาด้านหลังของคุณดูว่ารู้สึกตึงหรือไม่ ถ้าคุณเล่นถูก คุณจะรู้สึกได้ถึงกล้ามเนื้อชิ้นนั้นมันทำงานอยู่ ของแบบนี้ทำถูกฟอร์มปุ๊บจะรู้สึกได้ทันทีและวันต่อมาจะปวดกล้ามเนื้อต่ออีกหนึ่งถึงสองวัน ถ้าคุณมีอาการปวดจี๊ดๆ ปวดแปล๊บๆแบบนี้ไม่ใช่อาการปวดกล้ามเนื้อนะ คุณต้องกลับมาเช็คฟอร์มใหม่เลยว่าคุณทำถูกไหม การฝึกทุกท่ามีโอกาสบาดเจ็บเพราะฉะนั้นเซฟตัวเองก่อนที่จะให้คนอื่นมาช่วยเซฟ
2.Romanian Deadlift ได้กล้ามเนื้อส่วนใดบ้าง
1.hamstring 2.glute 3.core 4.back 5.lat and shoulder
ยืนตัวตรงโดยเริ่มจากยกบาร์จากแรค หรือจากที่พื้นก็ได้ การวางท่าจะมีลักษณะคล้ายกับท่า stiff leg deadlift ก้าวเท้าเข้าไปใกล้กับบาร์(กรณีคุณยกจากพื้น) กางขาประมาณไหล่ ยืนตัวตรงดันสะโพกไปด้านหลัง เข่าจะโค้งนิดหน่อยตามธรรมชาติ ในขณะที่แขนทั้งสองข้างจะต้องตรงไม่งอข้อศอก ดึงบาร์ขึ้นมาและยกลงให้ถึงประมาณหน้าแข้งก็เพียงพอ(ไม่ต้องลงถึงพื้น) รักษาแนวกระดูกสันหลังให้ตรง มีพุงเก็บพุงด้วยนะคะหลังจะได้ไม่ปวด
ปล.ถ้าคุณยกจากแรคบาร์ ก็ให้เริ่มเล่นจากด้านบนได้เลย
3.Conventional deadlift ได้กล้ามเนื้อส่วนใดบ้าง
1.hamstring and quad 2.glutes 3.back(spinal erector) 4.lats 5.traps 6.levator scapulae(สะบักและต้นแขนที่ช่วยการยก)
ท่านี้ส่วนใหญ่คุณมักจะเห็นคนในยิมเล่นกันบ่อย การวางท่าแตกต่างกันตรงที่ ยืนตรงความกว้างเท้าเสมอหัวไหล่ ย่อเข่าลง ดันสะโพกไปด้านหลังทื้งน้ำหนักตัวไปที่ส้นเท้า เก็บหน้าท้อง บล็อคหลังให้ตรง เหยียดแขนตรงไม่งอข้อศอก ดึงบาร์ขึ้นมาจากพื้น ยืนตัวตรงมีhip extentionนิดหน่อย
4.Sumo deadlift ได้กล้ามเนื้อส่วนใดบ้าง
1.glute 2.hamstring 3.quads 4.spinal erectors
ยืนตัวตรงกางขากว้างตามความสูง เตี้ยตามลักษณะของร่างกายคุณ (โดยสังเกตความกว้างของเท้าจากเส้นวิงบาร์ด้านในก็ได้ ปรับให้การยืนสะดวกสำหรับคุณที่สุดเพื่อการทรงตัว แขนวางอยู่ด้านในของขา ย่อเข่าลงคล้ายท่าเตรียมทำสควอชโดยสะโพกจะอยู่สูงกว่า เท้ายันพื้นไว้ ดึงบาร์ขึ้นมาด้วยแขนที่ตรง บาร์ควรจะชิดๆตัวไว้ด้วย หลังจากยกขึ้นมาแล้วให้บีบสะโพกเข้าหาตัวบาร์นิดหน่อย(hip extention) (ไม่ใช่เด้งเอวหรือก้นไปข้างหน้านะ) ท่านี้เมนหลักคือร่างกายส่วนล่างจะออกแรงมากกว่า
อุปกรณ์การเดดลิฟต์ ไม่ว่าคุณจะใช้บาร์เบล ดัมเบล เคทเทิลเบล ก็ถือว่าว่าเป็นเดดลิฟท์ทั้งหมด ต่างกันแค่เพียงการใช้อุปกรณ์ ส่วนฟอร์มการเล่นก็ขึ้นอยู่กับชนิดของการเดดลิฟท์ที่แตกต่างกันไป
การจับบาร์ บางคนคว่ำมือ บางคนหงายมือ ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ จับแบบไหนก็ได้เอาที่คุณถนัด
สำหรับเป้าหมายในการฝึกหรือการปรับเพิ่มน้ำหนัก ก็ค่อยๆเป็นค่อยๆไป ค่อยๆเพิ่มน้ำหนัก เล่นให้สนุกไม่ใช่เล่นแล้วเพิ่มความเครียด เล่นให้ใหญ่โตก็อีกแบบ เล่นให้ร่างกายโทนสวยก็อีกแบบ ความทุ่มเทและวินัยจะต่างกันเสมอ หรือถ้าคุณจะฝึกเพื่อลงแข่ง วินัยของคุณจะต้องเทียบเท่าระดับนักกีฬา
ท่าต้องถูกต้องตามฟอร์มคือสิ่งสำคัญ
ยืนเข้าไปใกล้บาร์ให้มากที่สุด จะได้เลี่ยงอาการบาดเจ็บน้อยที่สุด วางเท้าเท่ากับความกว้างของไหล่ วางแขนอยู่ด้านนอกต้นขา(บางท่าวางแขนอยู่ด้านในต้นขา) การจับบาร์จะจับคว่ำมือหรือหงายมือก็ได้หมดขึ้นอยู่กับความถนัด รักษาคานของบาร์ให้ใกล้กับขาไว้ตลอด แขนตรงไม่งอแขนหรือศอก หลังต้องตรงตลอดระยะเวลาการฝึกท่านี้
ข้อควรระวังในการฝึก
ผู้ที่มีปัญหากระดูดสันหลังคด
ผู้ที่มีปัญหากระดูกทับเส้นประสาทหรือหมอนรองกระดูก
เดดลิฟต์เหมาะสำหรับทุกคนหรือไม่ และจำเป็นไหมที่ต้องเล่น?
ตอบ ไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน เพราะข้อจำกัดสภาพร่างกายของคนเราแตกต่างกันเช่นโรคประจำตัวบางโรค ไม่จำเป็นต้องฝึกก็ไม่ผิดอะไร แต่ถ้าหากร่างกายคุณผู้อ่านสมบูรณ์แข็งแรงดีแนะนำว่าลองได้
ทำไมเดดลิฟต์ถึงดีกับคุณ พัฒนาโพสเจอร์ได้ดี ก้นแน่นขึ้น เพิ่มความแข็งแรงทั้งร่างกาย ได้หลายกลุ่มกล้ามเนื้อ ผสมท่าเดดลิฟท์ในการฝึกของคุณอย่างน้อยสัปดาห์ละ1-2 ครั้ง จะสามารถพัฒนาความแข็งแรงของ ต้นขาหลัง(ลดผิวเปลือกส้มได้ดีมาก) ก้น หลังล่าง หลังบน และยังทำให้แกนกลางลำตัวของคุณแข็งแรงขึ้นระหว่างยก ช่วยสร้างกล้ามเนื้อช่วยเพิ่มระบบเผาผลาญได้ในระยะยาว
นอกเหนือจากท่าเดดลิฟต์แล้วผู้เขียนยังจะมีท่าออกกำลังกายอื่นๆที่เป็น compound movement มาบอกเล่าให้คุณผู้อ่านในคราวต่อไป ติดตามอ่านกันนะคะ รับรองได้ประโยชน์แน่นอน
ผู้เขียน:แก้วเกตุมณี@fitandfirmfamily