Overtraining ออกกำลังมากไปก็เหี่ยวนะ
เคยไหมออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน วินัยเป๊ะ ดูแลตัวเองดีมาตลอด อาหารก็เลิศ แต่ทำๆไปกลับไม่รู้สึกสดชื่นซ้ำยังเกิดอาการไม่สบายตัว ยิ่งฝึกยิ่งอ่อนแอลง แรงจูงใจน้อยลง อารมณ์แปรปรวนได้ง่าย ปวดหัวนอนไม่หลับ ภูมิแพ้กำเริบ หงุดหงิดง่าย ที่สำคัญกลับดูแก่และโทรมแทนที่จะดูสดใสแบบคนออกกำลังกายเป็นประจำ ออกมากไปร่างกายก็ช้ำเกิดอนุมูลอิสระเพิ่ม ร่างกายอ่อนแอลง ภูมิต้านทางลดลง อยากจะสุขภาพดีขึ้นแต่ผลลัพธ์กลับสวนทาง แปลว่าร่างกายกำลังออกใบแจ้งเตือนส่งใบเหลืองมาให้คุณ ตีความได้ว่า "ฉันต้องการพัก ให้มากกว่านี้สักหน่อย" สิ่งเหล่านี้คุณต้องใช้การสังเกต
1.เจ็บกล้ามเนื้ออย่างรุนแรง
2.อัตราการเต้นของหัวใจสูงในขณะพัก
3.ป่วยบ่อยร่างกายอ่อนแอเสี่ยงติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
4.มีโอกาสบาดเจ็บจากการเล่นสูง
5.มีอารมณ์หงุดหงิดง่าย ซึมเศร้า
6.รู้สึกหมดไฟ หมดแรงกระตุ้น
7.ความอยากอาหารลดลง ระบบย่อยทำงานแย่ลง
8.น้ำหนักลด ปวดศรีษะ
9.เป็นหวัดง่าย เจ็บคอ
10.เจ็บป่วยเล็กๆน้อยๆอยู่ตลอด ทำงานมากเกินไป
11.ประจำเดือนขาด โภชนาการด้อยลง
1.ต้องพักเพื่อปล่อยให้ร่างกายได้มีการฟื้นฟู บางคนอาจจะห่างจากฟิตเนสไปเป็นสัปดาห์ แต่พอกลับมาเล่นอีกครั้งจะสามารถโฟกัสและสนุกกับการเล่นได้อีก
2.ลดระดับความหนักของการเล่นลง หรือลดระดับความเข้มข้นในการออกกำลังกายลง เช่น ถ้าคุณเล่น 5 เซ็ทในแต่ละท่า ก็อาจจะใช้น้ำหนักที่ต่ำลงหรือลดลงเหลือ2-3 เซ็ท มาโฟกัสฟอร์มการเล่นแทนช่วยเสริมสร้างพลังใจและกล้ามเนื้อให้เชื่อมโยงกัน
3.ฟังเสียงลึกๆจากในเนื้อเยื่อ กล้ามเนื้อตรงไหนตึง ตรงไหนล้า ตรงไหนควรต้องพักซ่อมแซม ความตึงเครียดจากการสร้างกล้ามเนื้ออาจนำความเครียดมาสู่ข้อต่อ เส้นเอน รวมถึงกล้ามเนื้อทั่วร่างได้ด้วย การสังเกตและได้รับแจ้งอาการเตือนแบบนี้จะสามารถป้องกันอาการบาดเจ็บได้ เป็นการไม่ใช้งานร่างกายมากเกินไป
เขียนและเรียบเรียงโดย:แก้วเกตุมณี@fitandfirmfamily
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก bodybuilding.com,en.wikipedia.org
free photo by pixabay.com
อาการต่างๆเหล่านี้เกิดได้กับนักกีฬา นักวิ่ง
หรือผู้ที่มักออกกำลังกายหนักๆเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าเรากำลังโอเวอร์เทรนอยู่นะ มาตรวจสอบตัวเองหน่อยดีกว่า1.เจ็บกล้ามเนื้ออย่างรุนแรง
2.อัตราการเต้นของหัวใจสูงในขณะพัก
3.ป่วยบ่อยร่างกายอ่อนแอเสี่ยงติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
4.มีโอกาสบาดเจ็บจากการเล่นสูง
5.มีอารมณ์หงุดหงิดง่าย ซึมเศร้า
6.รู้สึกหมดไฟ หมดแรงกระตุ้น
7.ความอยากอาหารลดลง ระบบย่อยทำงานแย่ลง
8.น้ำหนักลด ปวดศรีษะ
9.เป็นหวัดง่าย เจ็บคอ
10.เจ็บป่วยเล็กๆน้อยๆอยู่ตลอด ทำงานมากเกินไป
11.ประจำเดือนขาด โภชนาการด้อยลง
แก้ปัญหาการโอเวอร์เทรนได้อย่างไร
การพักผ่อนคือกุญแจสำคัญในการฟื้นฟูและแก้ไขอาการโอเวอร์เทรนได้ เมื่อออกกำลังกายแล้วจำเป็นต้องมีวันพัก ฝึกเสร็จแล้ว หลังจากนั้น 36 ชั่วโมงคือเวลาที่เซลล์ในร่างกายซ่อมแซมตัวเอง ถ้าเราข้ามการพักผ่อนไป การฟื้นฟูร่างกายตัวเองจะไม่เกิดขึ้น ยิ่งถ้าละเลยการพักจะยิ่งเสี่ยงบาดเจ็บเพิ่ม สำหรับคนที่สร้างกล้ามเนื้อ คนลดน้ำหนัก คนที่ออกกำลังกายหนักแล้วจำกัดการทานบ่อยๆจึงทำให้เกิดการโอเวอร์เทรนได้ง่าย1.ต้องพักเพื่อปล่อยให้ร่างกายได้มีการฟื้นฟู บางคนอาจจะห่างจากฟิตเนสไปเป็นสัปดาห์ แต่พอกลับมาเล่นอีกครั้งจะสามารถโฟกัสและสนุกกับการเล่นได้อีก
2.ลดระดับความหนักของการเล่นลง หรือลดระดับความเข้มข้นในการออกกำลังกายลง เช่น ถ้าคุณเล่น 5 เซ็ทในแต่ละท่า ก็อาจจะใช้น้ำหนักที่ต่ำลงหรือลดลงเหลือ2-3 เซ็ท มาโฟกัสฟอร์มการเล่นแทนช่วยเสริมสร้างพลังใจและกล้ามเนื้อให้เชื่อมโยงกัน
3.ฟังเสียงลึกๆจากในเนื้อเยื่อ กล้ามเนื้อตรงไหนตึง ตรงไหนล้า ตรงไหนควรต้องพักซ่อมแซม ความตึงเครียดจากการสร้างกล้ามเนื้ออาจนำความเครียดมาสู่ข้อต่อ เส้นเอน รวมถึงกล้ามเนื้อทั่วร่างได้ด้วย การสังเกตและได้รับแจ้งอาการเตือนแบบนี้จะสามารถป้องกันอาการบาดเจ็บได้ เป็นการไม่ใช้งานร่างกายมากเกินไป
เขียนและเรียบเรียงโดย:แก้วเกตุมณี@fitandfirmfamily
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก bodybuilding.com,en.wikipedia.org