การเลือกรองเท้าออกกำลังกาย

การแต่งกายเป็นเรื่องหนึ่งที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจและช่วยส่งเสริมบุคลิกภาพให้คนใส่ดูดีโดดเด่นขึ้นมาได้คนส่วนใหญ่จึงมักให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์จุดนี้เป็นอันดับต้นๆและโฟกัสเรื่องการแต่งกายที่ถูกต้องตามระเบียบเป๊ะเช่น กางเกงกีฬา เลคกิ้ง สปอร์ตบรา กางเกงวิ่งขายาว กางเกงรัดกล้ามเนื้อ ชุดกีฬาเต็มยศก่อนให้ความสำคัญเรื่องรองเท้า สิ่งแรกที่ควรให้ความสำคัญมากที่สุดมาก่อนเครื่องแต่งกายเหล่านี้คือรองเท้ากีฬาคุณภาพดีสักคู่จากนั้นค่อยไปโฟกัสเรื่องเสื้อผ้าเป็นอันดับรองลงไป ซึ่งบล็อกนี้จะกล่าวถึงรองเท้ากีฬาอุปกรณ์สำคัญที่สุดสำหรับการไปออกกำลังกาย

ทำไมรองเท้าสำหรับเข้ายิมถึงสำคัญต่อการออกกำลังกาย
นักฟิตเนสมืออาชีพหรือนักกีฬามืออาชีพโดยสำรวจข้อมูลเชิงลึกจะมีรองเท้าออกกำลังกายหลายคู่ ไม่ใช่เพียงเพราะเหตุผลพื้นฐานทางด้านสุขภาพเท่านั้นแต่ยังเกี่ยวข้องกับภูมิคุ้มกันอีกด้วย  ตกละใจล่ะสิว่ามันเกี่ยวกับภูมิคุ้มกันอย่างไร คำตอบนั้นเรียบง่ายมากคือเมื่อเรากำลังออกกำลังกายภูมิคุ้มกันในร่างกายของเราจะลดระดับลงและถ้าเราสวมรองเท้าคู่เดิมที่เราใช้ออกกำลังกายภายนอกมันจะไม่ถูกหลักอนามัยและความไม่ถูกสุขอนามัยนี้อาจทำให้เกิดเป็นสาเหตุให้เรามีโอกาสเจ็บป่วยได้ อีกหนึ่งเหตุผลของการสวมใส่รองเท้าในฟิตเนสหรือยิมก็คือความปลอดภัย เราไม่สามารถวิ่งบนลู่วิ่งได้โดยปราศจากรองเท้า เหตุผลที่สองคือเราต้องเข้ายิมในหลากหลายโซนอย่างเช่น โซนฟรีเวทที่มีดัมเบลเยอะๆ มุมที่แผ่นน้ำหนักเยอะ คลาสเต้น มันจะปลอดภัยกว่าเมื่อใส่รองเท้าเข้าไปในโซนต่างๆเหล่านี้เป็นการหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บทุกชนิดเช่นดัมเบลหล่นใส่เท้าหรือเหตุอื่นๆที่อาจเกิดขึ้นได้

 

free photo:pixabay.com

ประโยชน์ของการเลือกรองเท้า
การเลือกรองเท้าให้เหมาะสมจะช่วยสามารถป้องกันอาการบาดเจ็บที่เกี่ยวข้องกับการออกกำลังกายของคุณได้ รองเท้าที่ดีจะสามารถช่วยลดแรงกระทบในแต่ละย่างก้าวและรองรับเท้าจากน้ำหนักตัวคุณขณะที่คุณกระโดดและแลนดิ้งลงสู่พื้น  รองเท้าออกกำลังกายที่ไม่เหมาะสมเป็นสาเหตุทำให้เกิดการบาดเจ็บนอกเหนือจากอาการที่สามารถมองเห็นได้ด้วยสายตาแล้วยังรวมไปถึงการบาดเจ็บของเส้นเอน กระดูกข้อเท้าแตกที่อาจแตกหักได้ ภาวะนิ้วหัวแม่เท้าเอียง ตาปลา ตุ่มน้ำพุพอง บางคนจะคิดว่าการบาดเจ็บแบบนี้คือสิ่งปกติแต่อันที่จริงถือเป็นการสวมใส่รองเท้าที่ทำร้ายต่อเท้าอย่างมาก ควรเปลี่ยนรองเท้าที่ใช้ให้เหมาะสมกับกิจกรรมกีฬาเพราะการเลือกรองเท้าผิดประเภทจะส่งผลต่อการปวดเท้าซึ่งเป็นอาการปวดตามแนวกระดูกที่เรียกว่าmetatarsalgia
Metatarsalgiaคืออาการผิดปกติที่ปวดตามแนวกระดูกและปวดอย่างต่อเนื่อง ปวดใต้ข้อต่อฐานนิ้วด้านฝ่าเท้าซึ่งจะมีผลต่อการลงน้ำหนักเท้า การยืน การเดิน การวิ่งหรือการกระโดดเพราะเป็นส่วนที่รองรับน้ำหนักของร่างกายมีผลทำให้กล้ามเนื้อ่ต่างๆไม่สมดุลทำให้เกิดอาการปวดขาหรือเท้าตามมาได้(ตามข้อมูลของBeth Israel Deaconess Medical Center)

ความสำคัญของรองเท้ากับกิจกรรม indoorและกิจกรรมoutdoor บ่อยครั้งที่คนคิดไปเองว่ารองเท้าคู่หลักนั้นจะใช้ได้กับทุกกิจกรรมกีฬาซึ่งความจริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย
ถ้าคุณใช้รองเท้าเพียงคู่เดียวใส่ออกกำลังกายในทุกชนิดกีฬาหรืออาจจะเรียกได้ว่าคู่เดียวเที่ยวไปทุกกิจกรรม จงอย่าแปลกใจถ้าคุณจะได้รับความเจ็บช้ำหรือปวดร้าวเท้าอยู่บ่อยๆจนมีอาการปวดข้อเท้าลามไปจนถึงเจ็บเข่าและเป็นเรื้อรัง ยิ่งไปกว่านั้นการเลือกถุงเท้าที่ผิดประเภทก็เป็นจุดสำคัญที่ทำให้อาการเลวร้ายลงไปอีก เช่นถุงเท้าผ้าฝ้ายเมื่อเลือกหยิบมาใช้มักจะมีแนวโน้มที่ทำให้เกิดแรงเสียดทานต่อผิวของคุณได้มากว่าถุงเท้าที่เหมาะสำหรับการออกกำลังกาย ดังนั้นเมื่อคุณสวมรองเท้าที่เทอะทะและไม่เหมาะสมเช่น รองเท้าบาสเก็ตบอลและถุงเท้าผ้าฝ้ายที่คับแน่น คุณคาดได้เลยว่าเท้าของคุณจะอยู่ในรูปร่างที่แย่บวมหรือช้ำหลังจากการวิ่งออกกำลังกาย ถ้าต้องการหลีกเลี่ยงตุ่มน้ำใสและผลกระทบที่ทำให้เท้าและหน้าแข้งคุณบวมจงลงทุนกับรองเท้าคุณภาพที่ดีสักคู่ ไม่ว่าคุณจะออกกำลังกายที่ต้องเกี่ยวข้องกับการวิ่ง การเดิน แอโรบิค กีฬาอื่นๆหรืออุปกรณ์ฟิตเนส รองเท้ากีฬาที่เหมาะสมคือสิ่งที่จำเป็นต้องมี การบาดเจ็บโดยมีสาเหตุมาจากการเลือกรองเท้าไม่เหมาะสมสามารถหยุดชะงักการออกกำลังกายของคุณได้โดยไม่มีความจำเป็น การลงทุนกับรองเท้าคุณภาพดีสามารถช่วยคุณปกป้องเท้า ข้อเท้า ขาหรือเข่าและทำให้การออกกำลังกายของคุณน่าพึงพอใจมากยิ่งขึ้น การเคลื่อนไหว่คล่องตัวได้สัมผัสกับประสบการณ์สะดวกสบายมากขึ้นเพิ่มความมั่นใจให้กับการออกกำลังกายของคุณ มีรองเท้ากีฬาหลากหลายชนิดรอให้คุณเลือกได้อย่างมากมายในตลาดและทุกๆประเภทกิจกรรมกีฬา

รองเท้าวิ่ง
รองเท้าวิ่งที่ดีที่สุดจะต้องเหมาะสมกับเท้า นุ่มรองรับเท้าได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดระยะเวลาการวิ่งออกกำลังกาย ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเห็นผลก็ต่อเมื่อมีการสะดุดหรือการชนในระหว่างออกกำลังกายแต่ยังสามารถรักษาความเสถียรการทรงตัวของร่างกายเอาไว้ได้และเท้าต้องไม่ได้รับบาดเจ็บจึงจะสามารถชี้ให้เห็นว่ารองเท้านี้เป็นคู่แท้ของคุณได้หรือไม่ คนส่วนหนึ่งไม่ได้ตระหนักหรือให้ความสนใจกับการที่จะสืบเสาะหารองเท้าวิ่งดีๆสักคู่มาสวมใส่ซึ่งทำให้คนเหล่านี้จะมีอาการปวดเท้าหลังจากการวิ่ง  รองเท้าวิ่งที่ภายในถูกสร้างมาเพื่อรองรับแรงกระแทกได้อย่างดีสำหรับนักวิ่งหรือผู้ที่ชื่นชอบการจ็อคกิ้งเบาๆ รองเท้าสำหรับการเดินมีน้ำหนักเบาสำหรับนักเดินตัวยงหรือรองเท้าแอโรบิคน้ำหนักเบาจะช่วยป้องกันการช็อคจากการเหนื่อยล้าของเท้าและรองรับจุดโค้งของเท้าหรือป้องกันอาการตุ่มน้ำพุพองเช่น ตุ่มน้ำ ตาปลา ซึ่งมีผลจากการกดดันของการออกกำลังกายแบบแอโรบิค รองเท้าวิ่งที่ดีจะมีสิ่งหนึ่งที่เป็นประโยชน์และสำคัญคือการตัดเย็บมีรูปทรงปรับปรุงแบบที่เหมาะสมให้เข้ากับเท้าของคุณให้มากเท่าที่จะเป็นไปได้และเหตุผลสำหรับข้อนี้ก็คือ ยิ่งรองเท้าเข้ากับทรงเท้าของคุณได้ดีเท่าไหร่ก็จะช่วยลดสาเหตุรองเท้ากัดหรือจุดเสียดสีกับเท้าของคุณได้มากเท่านั้นถือเป็นการคัดกรองการสวมรองเท้าผิดประเภท
ในปัจจุบันร้านขายรองเท้ากีฬาจะจัดเตรียมเครื่องวิ่งทดสอบไว้ให้ในร้านเพื่อทดสอบได้อีกด้วย(คุณจะพบได้ในบางร้านกีฬาขนาดใหญ่) ดังนั้นคุณจะทราบได้ว่ารองเท้าวิ่งชนิดไหนเหมาะกับเท้าของคุณ อย่าลืมตรวจสอบสภาพเท้าของคุณด้วยว่าคุณเป็นคนที่มีทรงเท้าแบบไหน ? แบบปกติ ทรงเท้าแบนหรือกระดูกข้อเท้าเอียงหรือไม่(มีเอียงเข้าด้านในและเอียงออกด้านนอก) ซึ่งในเรื่องนี้จะกล่าวถึงระดับองศาการเอียงของข้อเท้าไปทางด้านในเมื่อคุณวิ่งเนื่องจากการเลือกรองเท้าวิ่งที่ดีอีกข้อหนึ่งยังขึ้นอยู่กับความเอียงของข้อเท้าอีกด้วย

มีนักวิ่งอยู่สองประเภท ประเภทที่หนึ่งคือมีการเอียงของข้อเท้ามากเกินไปขณะวิ่งและอีกประเภทหนึ่งคือ มีความเอียงของข้อเท้าไม่เพียงพอซึ่งกลุ่มนี้คือกลุ่มของผู้มีเท้าแบนนั่นเอง ข้อเท้าจะหมุนเข้าด้านในเวลาวิ่งหรือตรงข้อเท้าจะโก่งๆโค้งเข้าด้านในหน่อย กลุ่มนี้เวลาวิ่งจะมีอาการล้าขาหรือปวดเข่าได้ง่าย
ทางที่ดีที่สุดสำหรับคุณนั้นคือไปลองรองเท้าที่ร้านที่เน้นขายรองเท้ากีฬาหรือรองเท้าวิ่งโดยเฉพาะ ร้านเหล่านี้จะมีพนักงานที่มีความรู้คอยให้ความแนะนำอยู่และปล่อยให้คุณได้ลองรองเท้าที่มีอยู่ในร้านจนกว่าจะหาคู่ที่เหมาะกับเท้าของคุณได้ พยายามเดิน วิ่งหรือกระโดดไปมาในร้านเพื่อทดสอบความฟิตของเท้าเวลาสวมด้วย (ไม่ต้องอายดิฉันก็ทำเป็นประจำเวลาซื้อ) ถ้าคุณวิ่งเป็นอาชีพรองเท้าวิ่งควรเปลี่ยนทุกๆ350-500ไมล์(ประมาณ 563-804กิโลเมตร) แต่คนบางส่วนอาจจะเปลี่ยนรองเท้าที่ 1,000 กิโลเมตรก็ได้นะ/ ถ้าคุณวิ่ง 20ไมล์ (32.187)ต่อสัปดาห์หมายความว่าคุณควรเปลี่ยนรองเท้าวิ่งทุกๆ20-25ไมล์(32.187-40.234กิโลเมตร)/สัปดาห์
*ถ้าไม่ได้วิ่งหนักเป็นอาชีพพื้นรองเท้าไม่สึกเร็วหรือยังสภาพดีอยู่ก็อาจจะพิจารณายืดระยะการเปลี่ยนรองเท้าออกไปก็ได้ค่ะ

รองเท้าเทนนิส จะยืดหยุ่นเพื่อป้องกันเท้าพลิกเวลาเคลื่อนที่ไปมาด้านข้างเปลี่ยนทิศทางการวิ่งได้ทุกองศาจะเน้นการวางเท้าให้มั่นคงและพื้นรองเท้าและดอกยางจะเน้นเต็มพื้นที่ขึ้นมาถึงด้านข้างเท้าเมื่อมีการเบรกการเล่นกะทันหัน
รองเท้าบาสเก็ตบอล จะหุ้มข้อสูงจัดพิเศษมาเพื่อป้องกันเท้าพลิกและข้อเท้าบาดเจ็บเมื่อต้องวิ่งและกระโดดสูง พื้นมีความยืดหยุ่นสูงเหมาะสำหรับการเปลี่ยนทิศทางกระทันหันและยืดเกาะพื้นได้ดี
รองเท้าครอสเทรนนิ่ง เหมาะใช้เล่นหลายชนิดกีฬาในยิมเช่น เต้น ปั่นจัการยาน วิ่งลู่ เวทเบาๆ หน้าพื้นรองเท้ากว้าง รองรับการทรงตัวได้ดี ยืดเกาะกับพื้นในฟิตเนสได้ดี ใช้วิ่งบนลู่วิ่งและใช้งานในฟิตเนสไม่เน้นการเคลื่อนไหวต่อเนื่องมากนัก 
รองเท้ายกน้ำหนัก
การเลือกรองเท้ายกน้ำหนักมีผลช่วยให้ท่าทางการยกเช่นในบางท่าเช่น สควอชหรือเดดลิฟดีขึ้น  ซึ่งการเลือกรองเท้าสำหรับยกน้ำหนักนั้นก็เหมือนกันกับการที่เราเลือกรองเท้าวิ่งเพราะรองเท้าที่ดีสามารถลดการบาดเจ็บของหัวเข่าและข้อเท้าของคุณได้ รองรับน้ำหนักได้เยอะเมื่อคุณยกเหล็กหนักๆ เกาะพื้นหนึบมาก เมื่อคุณใส่รองเท้าที่เหมาะสมกับกิจกรรมคุณจะมั่นใจและความมั่นใจคือส่วนส่งเสริมต่อการเพอร์ฟอร์มานซ์(การแสดงออกทางลักษณะท่าทาง) มันไม่ใช่ความคิดที่ดีเลยที่จะใส่รองเท้ายกเวทเป็นรองเท้าสำหรับกีฬาอื่นๆด้วยเพราะมีความเป็นไปได้อย่างสูงที่คุณจะเกิดอาการเจ็บเข่าและข้อเท้าได้

เลือกรองเท้าให้เหมาะสมนั้นขึ้นอยู่กับประเภทกีฬาที่คุณใช้เวลาทำกิจกรรมกีฬานั้นๆมากที่สุด ถ้าคุณเลือกออกกำลังกายสามครั้งต่อสัปดาห์หรือมากกว่านั้นเลือกรองเท้าให้สอดคล้องกันด้วย แนะนำว่าเลือกลองรองเท้าช่วงบ่ายหรือตอนเย็น หรือหลังจากที่คุณออกกำลังกายเสร็จแล้ว เท้าของคุณจะขยายตัวในช่วงเวลานี้ ลองรองเท้าพร้อมถุงเท้ากีฬาเพื่อทำให้แน่ใจว่าจะฟิตพอดีกับเท้าและยืนขึ้นเดินไปเดินมาและกระโดดดู เมื่อแน่ใจว่าใส่ได้พอดีให้เหลือช่องว่างไว้สักครึ่งนิ้วด้วยการลองกระดิกปลายเท้าขยับไปมาดู อย่าลืมงอปลายรองเท้าเข้าหาตัวนิดนึงเพื่อเช็คว่ารองเท้ามีความยืดหยุ่นปานกลาง ไม่ควรยืดหยุ่นหรืองอเข้ามาหาตัวมากเกินไปเนื่องจากแสดงถึงรองเท้าขาดการปกป้องรองรับที่ไร้คุณภาพ
บทความโดย: แก้วเกตุมณี@fitandfirmfamily