วันนอกใจ Cheat Day Baby!
วันนอกใจ Cheat Day Baby! 😈
(cheat=โกง นอกใจ)
เดือนนี้กรุงเทพฯ ฝนตกบ่อย บางวันเย็นบางวันร้อน แต่ดิฉันว่าก็ยังร้อนขึ้นมากกว่านะได้ไอศกรีมเย็นๆสักแท่งคงจะชื่นใจไม่น้อย มาเสริฟแล้วนะคะสำหรับบทความที่สาม เป็นบทสั้นๆ ในเดือนแห่งวันแม่
พูดกันตรงๆเลยว่าบทนี้เขียนขึ้นเพื่อฝึกความต่อเนื่องและขจัดความขี้เกียจให้หมดไปจากชีวิตล้วนๆเลยนะ การเขียนช่วยลดความเครียดได้ดีและยังช่วยในการฝึกปรับพฤติกรรมบางอย่างให้ลดลงไปได้ เช่น ความโกรธ การได้ระบายออกของอารมณ์ และทำให้เข้าใจตัวเองมากขึ้น แต่สิ่งสำคัญยิ่งกว่านั้นคือ การเขียนสามารถทำให้เราบอกกับตัวเองได้ว่าสิ่งที่เรากำลังทำอยู่นั้น เราชอบ เรารักสิ่งนั้นจริงๆหรือเปล่า
เราจะอยู่กับมันได้นานแค่ไหน เราจะรักมันได้จริงๆไหม และเมื่อเรารู้ตัวว่าเรารักแล้ว เราจะสม่ำเสมอกับ ''ที่รัก''ของเราตลอดไป
''ที่รักคะ วันนี้เราคงจะต้องขอนอกใจกันหน่อยนะ ขอมีเล็กมีน้อยนิดนึงน่า นะ นะ'' 😜
นอกใจที่ดิฉันกำลังพูดถึงไม่ใช่อะไรหรอกค่ะ ดิฉันกำลังนอกใจวันทานอาหารคลีนปกติของตัวเอง มาทานอาหารที่ไม่คลีนและแคลอรี่อาจจะมากกว่า ดิฉันก็เลยโมเมเอาเองว่าเป็นวันนอกใจซะเลย
ฟังดูฮาร์ดดี เป็นคำที่ฟังแล้วดูไม่รื่นหูเท่าไหร่นัก แต่อย่าไปคิดมากเลยค่ะมันก็แค่คำจำกัดความต่อคำๆนึง ซึ่งตามแต่เราจะตั้งให้ก็เท่านั้น จะวันโกง วันหลุด วันอาหารโลก อะไรก็แล้วแต่
การทานชีทเดย์นี้จะช่วยทำให้จิตใจและร่างกายผ่อนคลายจากการเคร่งครัดกับการทานคลีนมาตลอดทั้งสัปดาห์ ซึ่งการชีทนี้ก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกส่วนตัวของแต่ล่ะบุคคลเลยค่ะ ว่าจะจัดแบบไหน ชุดใหญ่ ชุดเล็ก ชุดกลาง ได้หมด ส่วนวันชีทของดิฉันนั้นเน้นทานโปรตีนคาร์โบไฮเดรตให้เพียงพอตามที่ร่างกายต้องการปกติ ไม่ได้ลดสารอาหารหมู่ไหนเป็นพิเศษ วันชีทปกติของดิฉันแคลลอรี่จะใกล้เคียงกับวันธรรมดานะคะ แต่เป็นแคลอรี่ที่ไม่ได้เน้นคลีนเหมือนมื้อปกติ สามารถทานรสจัดหรือของหวานได้ตามสมควร(ดิฉันหมายความถึงตามสมควรจริงๆนะคะ ไม่ใช่ทานจนจุก ซัดไม่ยั้ง แบบนี้ไม่ใช่นะ) แคลไม่นับอีกเช่นเคย บางมื้ออาจจะประมาณ3000-4000Cl หรือมากกว่านั้น แล้วแต่ว่ามื้อส่วนตัวหรือส่วนรวม โดยดิฉันไม่เน้นคำนวณค่าbmr,tdee เน้นทานอิ่มสบายพุงพอดีๆ คือผ่านล่ะ
สำหรับดิฉันชีทสองมื้อต่อสัปดาห์ก็เพียงพอแล้ว(จะเรียกว่าเป็นชีทมีลก็ได้นะ)โดยส่วนตัวรู้สึกว่ากำลังดี หนึ่งเดือนมีชีท 8 มื้อสบายๆไม่ตึงไม่หย่อนมากจนเกินไปนัก เน้นเป็นมื้อเช้าและมื้อกลางวัน ส่วนมื้อเย็นทานอาหารคลีนปกติ
วันชีทนี้เหมาะกับคนแบบไหนนะ? ตอบ วันชีทเหมาะกับคนลดไขมัน(ลดความอ้วน)ที่คุมอาหารและออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย และเหมาะกับคนที่ออกกำลังกายเพิ่มน้ำหนักเพิ่มกล้ามเนื้อ ส่วนมืออาชีพเช่น นักเพาะกายที่ใกล้ถึงวันประกวดเขาจะไม่เน้นมีวันชีทมากนะคะเนื่องจากไม่ต้องการเพิ่มไขมันไม่ดี
อันที่จริงในความเห็นส่วนตัววันชีทนี้คนที่เพิ่มน้ำหนักหรือลดน้ำหนักอยู่ก็สามารถมีวันชีทได้ แต่ถ้าจะให้ยอดเยี่ยมแล้วแนะนำให้ออกกำลังกายควบคู่ไปด้วยเสมอ เพราะถ้าคุมอาหารอย่างเดียวและไม่ออกกำลังกาย อาจจะให้ผลไม่ดีเท่าที่ควร
แล้วชีทเดย์นี้ทานอะไรได้บ้างล่ะ? ดิฉันถือว่าทานได้ทุกอย่างที่เราต้องการค่ะ อาหารที่เราไม่แพ้
แต่ต้องปริมาณพอเหมาะพอดี เช่น ส้มตำไก่ย่าง พิซซ่า ติ่มซำ อาหารญี่ปุ่น ก๋วยเตี๋ยวเรือรสเด็ด ฯลฯ ให้ชีวิตมันได้มีรสชาติบ้าง ก็ดิฉันสายกินนี่นา ความสุขคือการได้ลิ้มลองอาหารอร่อย
แล้วเราจะชีทเวลาไหนดีนะ? ดิฉันชอบชีทหลังวันที่เวทหนักๆไปแล้ว เป็นมือเช้ากับมื้อกลางวัน มื้อเย็นทานคลีนปกติ ส่วนวันพักก็ทานคลีนปกติค่ะปริมาณอาหารเท่ากับวันที่ฝึกแต่อนุญาติตัวเองให้ลดคาร์ปลงมาได้นิดหน่อยในมื้อเย็นหรือบางมื้อหลังชีทก็จะงดคาร์ปไปเลยหนึ่งมื้อ
ทำไมต้องชีทด้วยล่ะ? สำหรับดิฉัน ส่วนตัวเลยนะ เพื่อรสชาติชีวิตล้วนๆเลยและไม่ให้หลุดตบะแตกยาวๆ ครั้นจะชีทเดือนล่ะ2มื้อก็ดูจะเคร่งไปนิด และตัวดิฉันเองเพิ่มกล้ามเนื้อก็จะทานเยอะเป็นปกติอยู่แล้วระบบเผาผลาญจึงทำงานเป็นปกติและร่างกายไม่ได้กลัวการเข้าสู่ภาวะต้องเก็บกับตุนอาหารหรือพลังงานอะไรมาก เพราะโหลดอาหารเข้าสม่ำเสมอในปริมาณที่ร่างกายต้องการอยู่เป็นกิจวัตร ดังนั้นจึงเลือกทำในแบบที่เราสบายใจ และคงไว้ในหุ่นที่เราชอบพร้อมได้สุขภาพดีด้วย
สุดท้ายนี้อยากจะบอกว่า อย่ารอคอยวันชีทเดย์เพื่อที่จะให้เป็นวันชดเชยความโหยหาอาหารของคุณจากการทานคลีนมื้อปกติเลยค่ะ เพราะถ้าคุณห้ามปาก ห้ามใจไม่ได้คุณจะทานแบบเบรกแตก แล้วมาเสียใจทีหลังแบบว่าฉันจบสิ้นแล้วที่มื้อนี้ 😞 จริงๆแล้วเราควรทำสิ่งที่เราคิดว่าจะทำได้ง่ายๆไปตลอด เพราะเราจะเกิดความสม่ำเสมอกับตัวเอง ทำชีวิตให้เป็นปกติที่สุดก็จะสามารถดูแลรักษารูปร่างไปได้ตลอด
สำหรับความเห็นส่วนตัวนั้น ดิฉันเองอยากให้ทุกๆคนคิดว่าการออกกำลังกายคือเรื่องจำเป็นต้องทำ เป็นการป้อนยาวิเศษให้แก่ร่างกายตัวเอง เพราะหากว่าเราปฎิบัติแต่พอดี การออกกำลังกายคือยาอายุวัฒนะดีๆนี่เอง เป็นยาที่เราสร้างได้ด้วยตัวเอง เท่านั้นยังไม่พอนะสมองของเรายังปล่อยสารเสพติดความสุขชั้นเยี่ยมที่มนุษย์สามารถผลิตขึ้นมาเองตามธรรมชาติโดยที่ไม่ต้องเสียเงินไปซื้อหามา ในเมื่อเรามียาดีมียาวิเศษอยู่กับตัวอยู่แล้ว ถ้าเกิดเราพลาดไป ไม่เคยใช้มันเลย คุณแน่ใจเหรอว่าจะไม่เสียใจทีหลัง ลองถามตัวเองดูนะคะและเราคงจะไม่มีคำว่า ''รู้งี้ดูแลตัวเองแต่แรกก็คงดี'' รับรองว่าโรครู้ยังงี้ จะไม่กำเริบแน่นอน
บทความ: แก้วเกตุมณี@fitandfirmfamily
27/08/2560
(cheat=โกง นอกใจ)
เดือนนี้กรุงเทพฯ ฝนตกบ่อย บางวันเย็นบางวันร้อน แต่ดิฉันว่าก็ยังร้อนขึ้นมากกว่านะได้ไอศกรีมเย็นๆสักแท่งคงจะชื่นใจไม่น้อย มาเสริฟแล้วนะคะสำหรับบทความที่สาม เป็นบทสั้นๆ ในเดือนแห่งวันแม่
พูดกันตรงๆเลยว่าบทนี้เขียนขึ้นเพื่อฝึกความต่อเนื่องและขจัดความขี้เกียจให้หมดไปจากชีวิตล้วนๆเลยนะ การเขียนช่วยลดความเครียดได้ดีและยังช่วยในการฝึกปรับพฤติกรรมบางอย่างให้ลดลงไปได้ เช่น ความโกรธ การได้ระบายออกของอารมณ์ และทำให้เข้าใจตัวเองมากขึ้น แต่สิ่งสำคัญยิ่งกว่านั้นคือ การเขียนสามารถทำให้เราบอกกับตัวเองได้ว่าสิ่งที่เรากำลังทำอยู่นั้น เราชอบ เรารักสิ่งนั้นจริงๆหรือเปล่า
เราจะอยู่กับมันได้นานแค่ไหน เราจะรักมันได้จริงๆไหม และเมื่อเรารู้ตัวว่าเรารักแล้ว เราจะสม่ำเสมอกับ ''ที่รัก''ของเราตลอดไป
''ที่รักคะ วันนี้เราคงจะต้องขอนอกใจกันหน่อยนะ ขอมีเล็กมีน้อยนิดนึงน่า นะ นะ'' 😜
นอกใจที่ดิฉันกำลังพูดถึงไม่ใช่อะไรหรอกค่ะ ดิฉันกำลังนอกใจวันทานอาหารคลีนปกติของตัวเอง มาทานอาหารที่ไม่คลีนและแคลอรี่อาจจะมากกว่า ดิฉันก็เลยโมเมเอาเองว่าเป็นวันนอกใจซะเลย
ฟังดูฮาร์ดดี เป็นคำที่ฟังแล้วดูไม่รื่นหูเท่าไหร่นัก แต่อย่าไปคิดมากเลยค่ะมันก็แค่คำจำกัดความต่อคำๆนึง ซึ่งตามแต่เราจะตั้งให้ก็เท่านั้น จะวันโกง วันหลุด วันอาหารโลก อะไรก็แล้วแต่
อะไรคือวันนอกใจ(cheat day)
มันก็คือวันชีทอย่างที่เราๆรู้ๆกันอยู่นั่นล่ะ คือเป็นวันที่เราอนุญาตให้ตัวเองทานอาหารนอกโปรแกรมได้ อาหารปรับสมดุลชีวิตให้อยู่ในทางสายกลาง ปรับระบบร่างกายให้คุ้นเคยในการกระตุ้นระบบเผาผลาญ การทานชีทเดย์นี้จะช่วยทำให้จิตใจและร่างกายผ่อนคลายจากการเคร่งครัดกับการทานคลีนมาตลอดทั้งสัปดาห์ ซึ่งการชีทนี้ก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกส่วนตัวของแต่ล่ะบุคคลเลยค่ะ ว่าจะจัดแบบไหน ชุดใหญ่ ชุดเล็ก ชุดกลาง ได้หมด ส่วนวันชีทของดิฉันนั้นเน้นทานโปรตีนคาร์โบไฮเดรตให้เพียงพอตามที่ร่างกายต้องการปกติ ไม่ได้ลดสารอาหารหมู่ไหนเป็นพิเศษ วันชีทปกติของดิฉันแคลลอรี่จะใกล้เคียงกับวันธรรมดานะคะ แต่เป็นแคลอรี่ที่ไม่ได้เน้นคลีนเหมือนมื้อปกติ สามารถทานรสจัดหรือของหวานได้ตามสมควร(ดิฉันหมายความถึงตามสมควรจริงๆนะคะ ไม่ใช่ทานจนจุก ซัดไม่ยั้ง แบบนี้ไม่ใช่นะ) แคลไม่นับอีกเช่นเคย บางมื้ออาจจะประมาณ3000-4000Cl หรือมากกว่านั้น แล้วแต่ว่ามื้อส่วนตัวหรือส่วนรวม โดยดิฉันไม่เน้นคำนวณค่าbmr,tdee เน้นทานอิ่มสบายพุงพอดีๆ คือผ่านล่ะ
สำหรับดิฉันชีทสองมื้อต่อสัปดาห์ก็เพียงพอแล้ว(จะเรียกว่าเป็นชีทมีลก็ได้นะ)โดยส่วนตัวรู้สึกว่ากำลังดี หนึ่งเดือนมีชีท 8 มื้อสบายๆไม่ตึงไม่หย่อนมากจนเกินไปนัก เน้นเป็นมื้อเช้าและมื้อกลางวัน ส่วนมื้อเย็นทานอาหารคลีนปกติ
วันชีทนี้เหมาะกับคนแบบไหนนะ? ตอบ วันชีทเหมาะกับคนลดไขมัน(ลดความอ้วน)ที่คุมอาหารและออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย และเหมาะกับคนที่ออกกำลังกายเพิ่มน้ำหนักเพิ่มกล้ามเนื้อ ส่วนมืออาชีพเช่น นักเพาะกายที่ใกล้ถึงวันประกวดเขาจะไม่เน้นมีวันชีทมากนะคะเนื่องจากไม่ต้องการเพิ่มไขมันไม่ดี
อันที่จริงในความเห็นส่วนตัววันชีทนี้คนที่เพิ่มน้ำหนักหรือลดน้ำหนักอยู่ก็สามารถมีวันชีทได้ แต่ถ้าจะให้ยอดเยี่ยมแล้วแนะนำให้ออกกำลังกายควบคู่ไปด้วยเสมอ เพราะถ้าคุมอาหารอย่างเดียวและไม่ออกกำลังกาย อาจจะให้ผลไม่ดีเท่าที่ควร
แล้วชีทเดย์นี้ทานอะไรได้บ้างล่ะ? ดิฉันถือว่าทานได้ทุกอย่างที่เราต้องการค่ะ อาหารที่เราไม่แพ้
แต่ต้องปริมาณพอเหมาะพอดี เช่น ส้มตำไก่ย่าง พิซซ่า ติ่มซำ อาหารญี่ปุ่น ก๋วยเตี๋ยวเรือรสเด็ด ฯลฯ ให้ชีวิตมันได้มีรสชาติบ้าง ก็ดิฉันสายกินนี่นา ความสุขคือการได้ลิ้มลองอาหารอร่อย
แล้วเราจะชีทเวลาไหนดีนะ? ดิฉันชอบชีทหลังวันที่เวทหนักๆไปแล้ว เป็นมือเช้ากับมื้อกลางวัน มื้อเย็นทานคลีนปกติ ส่วนวันพักก็ทานคลีนปกติค่ะปริมาณอาหารเท่ากับวันที่ฝึกแต่อนุญาติตัวเองให้ลดคาร์ปลงมาได้นิดหน่อยในมื้อเย็นหรือบางมื้อหลังชีทก็จะงดคาร์ปไปเลยหนึ่งมื้อ
ทำไมต้องชีทด้วยล่ะ? สำหรับดิฉัน ส่วนตัวเลยนะ เพื่อรสชาติชีวิตล้วนๆเลยและไม่ให้หลุดตบะแตกยาวๆ ครั้นจะชีทเดือนล่ะ2มื้อก็ดูจะเคร่งไปนิด และตัวดิฉันเองเพิ่มกล้ามเนื้อก็จะทานเยอะเป็นปกติอยู่แล้วระบบเผาผลาญจึงทำงานเป็นปกติและร่างกายไม่ได้กลัวการเข้าสู่ภาวะต้องเก็บกับตุนอาหารหรือพลังงานอะไรมาก เพราะโหลดอาหารเข้าสม่ำเสมอในปริมาณที่ร่างกายต้องการอยู่เป็นกิจวัตร ดังนั้นจึงเลือกทำในแบบที่เราสบายใจ และคงไว้ในหุ่นที่เราชอบพร้อมได้สุขภาพดีด้วย
สุดท้ายนี้อยากจะบอกว่า อย่ารอคอยวันชีทเดย์เพื่อที่จะให้เป็นวันชดเชยความโหยหาอาหารของคุณจากการทานคลีนมื้อปกติเลยค่ะ เพราะถ้าคุณห้ามปาก ห้ามใจไม่ได้คุณจะทานแบบเบรกแตก แล้วมาเสียใจทีหลังแบบว่าฉันจบสิ้นแล้วที่มื้อนี้ 😞 จริงๆแล้วเราควรทำสิ่งที่เราคิดว่าจะทำได้ง่ายๆไปตลอด เพราะเราจะเกิดความสม่ำเสมอกับตัวเอง ทำชีวิตให้เป็นปกติที่สุดก็จะสามารถดูแลรักษารูปร่างไปได้ตลอด
สำหรับความเห็นส่วนตัวนั้น ดิฉันเองอยากให้ทุกๆคนคิดว่าการออกกำลังกายคือเรื่องจำเป็นต้องทำ เป็นการป้อนยาวิเศษให้แก่ร่างกายตัวเอง เพราะหากว่าเราปฎิบัติแต่พอดี การออกกำลังกายคือยาอายุวัฒนะดีๆนี่เอง เป็นยาที่เราสร้างได้ด้วยตัวเอง เท่านั้นยังไม่พอนะสมองของเรายังปล่อยสารเสพติดความสุขชั้นเยี่ยมที่มนุษย์สามารถผลิตขึ้นมาเองตามธรรมชาติโดยที่ไม่ต้องเสียเงินไปซื้อหามา ในเมื่อเรามียาดีมียาวิเศษอยู่กับตัวอยู่แล้ว ถ้าเกิดเราพลาดไป ไม่เคยใช้มันเลย คุณแน่ใจเหรอว่าจะไม่เสียใจทีหลัง ลองถามตัวเองดูนะคะและเราคงจะไม่มีคำว่า ''รู้งี้ดูแลตัวเองแต่แรกก็คงดี'' รับรองว่าโรครู้ยังงี้ จะไม่กำเริบแน่นอน
บทความ: แก้วเกตุมณี@fitandfirmfamily
27/08/2560